หัวใจพองโต! ลาเมล่า โคตรแฮปปี้นำ เซบีย่า แชมป์ยูโรปาลีก

เอริก ลาเมล่า กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ของ เซบีย่า สุดแฮปปี้ที่ช่วยต้นสังกัดชนะจุดโทษ โรม่า 4-1

หลัง 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่สนามปุสกัส อารีน่า ในกรุง บูดาเปสต์ , ฮังการี เมื่อวันพุธที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ข่าวฟุตบอลวันนี้ ข่าวสด

“หมาป่ากรุงโรม” เริ่มต้นสวยหรูเมื่อได้ประตูนำไปก่อนจาก เปาโล ดีบาล่า ในช่วงครึ่งแรก อย่างไรก็ตามในครึ่งหลัง เซบีย่า ได้ประตูตีเสมอจากการทำเข้าประตูตัวเองของ จานลูก้า มันชินี่ ในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมทำสกอร์ได้จบเกมเสมอ 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายไม่สามารถยิงประตูกันได้ส่งผลให้ต้องใช้วิธียิงจุดโทษเพื่อหาแชมป์ และเป็น เซบีย่า ที่แม่นกว่าสามารถเอาชนะด้วยสกอร์ 4-1 ทำให้พวกเขาผงาดคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 7 ได้อย่างยิ่งใหญ่

มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินา กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่สุด ผมคงไม่สามารถขออะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว นี่คือความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อมากๆ เราทุกคนมีความสุขที่สุด แน่นอนว่ามันเป็นเกมที่สุดหิน โรม่าเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นเรื่องยากที่จะหาพื้นที่ และสร้างโอกาสได้เลยจริงๆ”

ข่าวแนะนำ : โปลิศ เทโรฯ จ่อควงลำพูนไร้พ่ายในบ้าน เลก2

โปลิศ เทโรฯ จ่อควงลำพูนไร้พ่ายในบ้าน เลก2

ศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022-23 เหลือการแข่งขันอีกเพียง 1 นัด จะรูดม่านปิดฉากลง โดยในเลกที่สอง ใน 2 จาก 16 ทีมบนลีกสูงสุด

ยังทำผลงานในบ้านได้อย่างยอดเยี่ยมและยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นในถิ่นของตัวเอง ประกอบไปด้วย โปลิศ เทโร เอฟซี และ ลำพูน วอริเออร์

“มังกรโล่ห์เงิน” โปลิศ เทโร เอฟซี ทีมอันดับ 8 ของตาราง ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ผลงานในบ้านในเลกที่สองโชว์ฟอร์มแจ่มยังไม่พลาดท่าปราชัยให้ทีมใดคาถิ่นบุณยะจินดา สเตเดียมแม้แต่เกมเดียว โดยถูกยกว่าเป็นทีมที่เคี้ยวยากเมื่อเล่นในบ้าน โดยเลกที่สองได้เล่นเป็นเกมเหย้า 6 นัด ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 0 โดยโปรแกรมนัดสุดท้ายของฤดูกาล มีคิวเปิดรังรับมือ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค 66 เวลา 18.00 น.

ข่าวฟุตบอลวันนี้

ผลงานเกมเหย้าของโปลิศ เทโร เอฟซี เลกที่2

วันที่ 29/1/23 เสมอ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-0

วันที่ 12/2/23 ชนะ ราชบุรี เอฟซี 1-0

วันที่ 5/3/23 เสมอ พีที ประจวบ เอฟซี 1-1

วันที่ 19/3/23 เสมอ ลำปาง เอฟซี 1-1

วันที่ 8/4/23 เสมอ สุโขทัย เอฟซี 2-2

วันที่ 29/4/23 ชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 3-0

ขณะที่ “ราชันโคขาว” ลำพูน วอริเออร์ น้องใหม่ในศึกไทยลีกฤดูกาลนี้ ภายใต้การคุมทัพของ อเล็กซานเดร กามา กุนซือชาวบราซิล โดยสถานการณ์ปัจจุบันรอดตกชั้นเป็นที่แน่นอนแล้ว โดยสร้างความเซอร์ไพรส์ในเลกที่สองด้วยผลงานในบ้านที่ยังไม่แพ้ใคร ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 0 และเหลือเกมในบ้านอีกหนึ่งเกม เป็นเกมสุดท้ายของฤดูกาล โดยจะเปิดบ้านรับมือ การท่าเรือ เอฟซี ในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค 66 เวลา 18.00 น.

ผลงานเกมเหย้าของลำพูน วอริเออร์ เลกที่ 2

วันที่ 29/1/23 เสมอ ราชบุรี เอฟซี 1-1

วันที่ 11/2/23 ชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3-0

วันที่ 19/2/23 เสมอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 0-0

วันที่ 25/2/23 เสมอ โปลิศ เทโร เอฟซี 2-2

วันที่ 11/3/23 เสมอ พีที ประจวบ เอฟซี 0-0

วันที่ 18/9/23 ชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี 1-0

วันที่ 9/4/23 ชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1

วันที่  29/4/23 ชนะ ลำปาง เอฟซี 2-1

สำหรับ เกมสุดท้ายที่ยังต้องลุ้นกันต่อ หากทั้งสองทีมที่กล่าวมาปิดจ็อบเกมสุดท้ายในบ้านได้ สิ่งนี้จะการันตีว่าพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และเป็นทีมที่สุดแข็งแกร่งในบ้านจริงๆ ในศึกไทยลีก เลกที่สองของ ฤดูกาลนี้

ข่าวแนะนำ : เจองานยากตั้งแต่เด็ก ! เผยหนึ่งในเคล็ดลับพัฒนาความโหดของ ฮาลันด์

เจองานยากตั้งแต่เด็ก ! เผยหนึ่งในเคล็ดลับพัฒนาความโหดของ ฮาลันด์

เออร์ลิง ฮาลันด์ คือกองหน้าหมายเลข 1 ของโลก ณ ตอนนี้ กระนั้นการที่เขากลายสภาพเป็นเครื่องจักรสังหารไม่ใช่ว่าจะทำได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืน

แต่ต้องมาจากการฝึกฝนอย่างหนัก โดยเฉพาะการได้รับความช่วยเหลือรวมทั้งให้คำแนะนำจากหลายๆ คนจนทำให้เขาตกผลึกกลายเป็นสุดยอดดาวยิงในปัจจุบัน

หัวหอกชาวนอร์เวย์ ถือเป็นนักเตะที่แนวรับและผู้รักษาประตูหวาดหวั่นอย่างมาก แต่การที่เขาจะก้าวมาได้ถึงขนาดนี้ต้องขอบคุณ ทอร์ด ยอห์นเซ่น ซัลเต้ กับ อันเดรียส อูเอลันด์ สองนักฟุตบอลโนเนมเพื่อนร่วมชาติ

ข่าวฟุตบอลวันนี้ ข่าวสด

ยอห์นเซ่น ซัลเต้ เคยผ่านการเล่นให้กับสโมสรดังอย่าง โอลิมปิก ลียง ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ตอนที่ยังเป็นดาวรุ่ง และปัจจุบันย้ายไปทำมาหารับประทานกับ อเรนดัล สโมสรในระดับดิวิชั่น 3 ประเทศนอร์เวย์ บ้านเกิดเมืองนอน

ขณะที่ อูเอลันด์ มีโอกาสได้เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ก่อนจะถูก นิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น ดราฟต์ตัวไปร่วมทีมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกทางกันหลังผ่านไปแค่ 2 เดือน และตอนนี้ อูเอลันด์ กลายเป็นนักเตะไร้สังกัด

ทั้ง ยอห์นเซ่น ซัลเต้ และ อูเอลันด์ เกิดและเติบโตที่เมืองไบรน์ ซึ่งเป็นเมืองเกษตรกรรมเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ นอร์เวย์ โดยทั้งสองคนถือเป็นกองหลังฝีเท้าดีตอนที่เล่นอยู่กับสโมสรท้องถิ่น, ได้รับการยกย่องในระดับประเทศสมัยที่ยังเป็นนักเตะระดับเยาวชน ที่สำคัญพวกเขามีส่วนช่วยทำให้ ฮาลันด์ กลายเป็นยอดดาวยิงฟอร์มฮอต

ฮาลันด์ อายุน้อยกว่า ยอห์นเซ่น ซัลเต้ และ อูเอลันด์ เพียงแค่ 1 ปี โดยในช่วงที่อายุ 7 ขวบเขาแสดงทักษะลูกหนังชั้นยอดเหนือกว่าบรรดานักเตะรุ่นเดียวกัน จึงทำให้ต้องขยับรุ่นขึ้น 1 ปี จนกระทั่งเจ้าตัวอายุ 15 ปี และต้องดวลกับผู้เล่นที่มีพัฒนาการมากกว่าอย่าง ยอห์นเซ่น ซัลเต้ และ อูเอลันด์ ซึ่งทำให้ ฮาลันด์ ต้องเจอกันงานสุดหิน

“เขาต้องเจอกับเรื่องที่สุดแสนยากลำบากในช่วงฝึกซ้อม” อัล์ฟ อิงเว เบิร์นสเท่น โค้ชทีมเยาวชนของไบรน์ กล่าว “เราไม่ได้สอนอะไรเขาเลย เราก็แค่ปล่อยให้เขาเล่นอย่างเต็มที่”

การฝึกซ้อมที่แสนยากลำบากตลอดระยะเวลาหลายปี เปรียบเสมือนการบ่มเพาะ ฮาลันด์ ให้กลายเป็นนักเตะระดับโลก และสร้างผลงานสุดยอดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะการตะบัน 40 ประตูจาก 47 ลูกมาจากการยิงแบบวันทัช หรือยิงแบบไม่จับ

ฮาลันด์ ไม่สามารถใช้พละกำลังที่มีอยู่ต่อสู้กับ 2 เซนเตอร์ฮาล์ฟรุ่นพี่ที่ไบรน์ได้ ซึ่งปัจจุบันสิ่งนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่เขาใช้ดวลกับกองหลังเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ ดาวเตะชาวนอร์เวย์ ต้องทำก็คือการใช้มันสมองเพื่อคิดกลยุทธ์ในการเอาชนะทั้ง 2 คนให้ได้ ดังนั้นนี่คือวิธีที่ช่วยให้เขาพัฒนาศักยภาพจนขึ้นมาในระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว

“การสู้กับกองหลังเหล่านั้น เขาต้องฉลาด” เบิร์นสเท่น กล่าว “คู่ต่อสู้ของเขาค่อนข้างเก่ง เราคงไม่สามารถพัฒนา เออร์ลิง ได้ เขาต้องทำสิ่งนี้ด้วยตัวเอง มันเป็นเรื่องดีสำหรับ เออร์ลิง ที่จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าให้คนแก่อย่างผมคอยบอกเขาว่าเขาต้องวิ่งไปตรงไหน เขาสามารถพัฒนาเรื่องความเร็วด้วยตัวเองด้วย

การซ้อมแบบกลุ่มย่อยทำให้ ฮาลนด์ สามารถประเมินความสำคัญของพื้นที่ว่าง มีตัวอย่างให้เห็นมากมายในฤดูกาลนี้ที่เขาแสดงให้เห็น แต่มีอยู่ 1 ประตูซึ่งเป็นจังหวะที่เขาซัดประตูที่สองในเกมถลุง คริสตัล พาเลซ 4-2 เมื่อเดือนสิงหาคมเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมในเรื่องนี้ เมื่อเขายืนอยู่เกือบจะเลยเสาสอง และได้ยิงสบายๆ เนื่องจากไม่มีใครตามประกบตรงพื้นที่นั้นเลย

อีกตัวอย่างเกิดขึ้นในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากจังหวะที่เขายิงประตูที่สองของตัวเองในเกมพบ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเจ้าตัววิ่งต่ำกว่า 2 กองหลัง “เดอะ ฟ็อกซ์” ก่อนที่จะหาพื้นที่ว่าง และกระชากบอลเข้าไปชิพข้ามตัว  แดเนียล ไอเวอร์เซ่น เข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้น มันแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานด้านร่างกาย และความฉลาดรวมทั้งสายตาเพชฌฆาตได้อย่างลงตัว ซึ่งส่งให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นตำนานพรีเมียร์ลีกภายในระยะเวลาแค่ 12 เดือนเท่านั้น

“เขาเล่นด้วยสัญชาตญาณเสมอ และนั่นมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์ที่เคยเจอ” เบิร์นสเท่น ระบุ “มันไม่ใช่แค่เรื่องความแข็งแกร่ง และพละกำลัง มันจะเป็นเรื่องของความสามารถด้านเทคนิค และความฉลาด, การหลอกกองหลัง เขาจดจำสถานการณ์เหล่านั้นได้หมด”

“เรามีกลุ่มนักเตะ 40 คนที่ไบรน์ บางครั้งเราก็มีการแบ่งพวกเขาลงเล่นในทีมที่มีความเท่าเทียมกัน เรื่องนี้อาจจะมีผลดีกับสภาพจิตใจ เพราะเขาต้องปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ตอนที่ผมได้ดูวีดิโอเก่าๆ สมัยที่เขาอายุ 13 ปี การเคลื่อนที่ของเขามันคล้ายกับตอนนี้เลย”

“เมื่อเปรียบเทียบกับบางประตูที่เขายิงได้ในการซ้อมแบบอินดอร์ตอนอายุ 13 ปีมันก็ดูขำๆ ดีแต่ทุกอย่างเหมือนกันมากๆ สไตล์การเล่นของเขาเป็นแบบนี้ตลอดช่วงหลายๆ ปี การเคลื่อนที่ก็เหมือนกัน ปกติแล้วเมื่อ

คุณได้พบกับคู่แข่งที่เหนือกว่าคุณมักจะหยุดพัฒนา แต่ เออร์ลิง ปรับตัวได้เสมอเพื่อยกระดับไปอีกขั้น และนั่นไม่ใช่เรื่องปกติ”

ข่าวแนะนำ : แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ? “บรูโน” ฟุ้งตอนนี้ผีแดงมีความเป็นหนึ่งเดียวแล้ว

แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ? “บรูโน” ฟุ้งตอนนี้ผีแดงมีความเป็นหนึ่งเดียวแล้ว

แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ? “บรูโน” ฟุ้งตอนนี้ผีแดงมีความเป็นหนึ่งเดียวแล้ว

ข่าวกีฬา

บรูโน แฟร์นันเดส กองกลางตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายืนยันว่าตอนนี้ทัพผีแดงดูมีความเป็นทีมอย่างมาก หลังเกมอัด เรดดิง 3-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบสี่

“มันสำคัญเสมอกับชัยชนะ ก็อย่างที่ผู้จัดการทีมบอกนั่นแหละ ไม่สำคัญว่าคู่แข่งจะเป็นใคร มันเป็นการกลับมาที่น่าเหลือเชื่อ”

“ตอนนี้เราเหมือนเป็นทีมแล้ว บางครั้งในช่วงก่อนหน้านี้เราแต่ละคนต่างเล่นเพื่อตัวเอง ตอนนี้คุณเห็นทีมที่ถูกต้องที่เล่นเพื่อกันและกัน”

สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม รั้งอันดับ 4 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก และมีคิวเปิดบ้านพบ คริสตัล พาเลซ วันนี้ เวลาประเทศไทย 22:00 น.

อัพเดทข่าวกีฬา มาใหม่ แนะนำข่าวเพิ่มเติม : บ้าไปแล้ว! “มิสก้นงาม” เปลือยฉลอง อาร์เจนตินา เข้ารอบสุดมั่นเถลิงแชมป์โลก

บ้าไปแล้ว! “มิสก้นงาม” เปลือยฉลอง อาร์เจนตินา เข้ารอบสุดมั่นเถลิงแชมป์โลก

บ้าไปแล้ว! “มิสก้นงาม” เปลือยฉลอง อาร์เจนตินา เข้ารอบสุดมั่นเถลิงแชมป์โลก

ข่าวกีฬา

กลายเป็นข่าวดังอีกครั้งสำหรับ ซูซี่ คอร์เตซ อดีตนางงามก้นสวยชาวบราซิล แฟนบอลพันธุ์แท้ของ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงตัวเก่งทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะยืนอยู่เคียงข้างนักเตะขวัญใจตลอดไป

ล่าสุด นางแบบสาวแซมบ้าวัย 32 ปี ทำเอาโซเชียลเดือดด้วยการเปลื้องผ้าพร้อมทั้งอาสีมาทาตัวเป็นสีฟ้าขาว พร้อมทั้งเขียนคำว่า “เมสซี่ 10” หลังจากที่ อาร์เจนตินา สามารถกรุยทางเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ

ขณะที่บั้นท้ายได้ทำนายผลการแข่งขันในเกมนัดชิงชนะเลิศด้วยสีฟ้า และสีแดง โดยเธอทำนายว่าจะเป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง อาร์เจนตินา กับ ฝรั่งเศส ก่อนที่ท้ายสุดจะให้ “ทัพฟ้าขาว” เบียดเอาชนะไปได้ 2-1 ผงาดคว้าแชมป์โลกไปครองได้เป็นสมัยที่ 3 มาครองได้สำเร็จ หลังสมัยสุดท้ายที่ทำได้คือเมื่อปี 1986

พร้อมกันนี้เธอยังเปิดใจกับ เดลี่ สตาร์ สื่อเจ้าดังว่า “ฉันให้สัญญาถ้า อาร์เจนตินา เป็นแชมป์ ฉันจะเพิ่มรอยสักเกี่ยวกับ เมสซี่ บนเรือนร่างของฉัน และฉันจะเดินทางไปยังเมืองโรซาริโอ สถานที่เกิดของยอดดาวยิง เพื่อเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่”

สำหรับ ซูซี่ คอร์เตซ อดีตนางงามก้นสวยของประเทศบราซิลเมื่อปี 2015 (มิสบัมบัม 2015) ถือเป็นนางแบบที่กลายเป็นที่สนใจของแฟนๆ ทั่วโลก ซึ่งเธอชื่นชอบ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นอย่างมากถึงกับลงทุนยอมพลีกายให้กับเขาได้เลยทีเดียว

แถมเธอยังมีรอยสักที่เกี่ยวกับแข้งไอดอลบนเรือนร่างทั้งหมด 3 แห่ง ไล่ตั้งแต่บั้นท้ายโดยเขียนข้อความว่า “เมสซี่ 10 พร้อมกับตราสโมสรบาร์เซโลน่า” ขณะที่บริเวณหน้าท้อง สักรูปใบหน้าของ ยอดแข้งทีมชาติอาร์เจนติน่า และที่สุดท้ายก็คือบริเวณรูทวารที่เธอบอกว่าจะเผยให้เห็นสำหรับแฟนๆ ใน OnlyFans เท่านั้น

อัพเดทข่าวกีฬา มาใหม่ แนะนำข่าวเพิ่มเติม : แมนยู เลือดข้น! พาร์ค โดนเมียแกง

แมนยู เลือดข้น! พาร์ค โดนเมียแกง

แมนยู เลือดข้น! พาร์ค โดนเมียแกงสะใจเวอร์เกมแดงเดือด